หน้าแรก » ไอที » วิธีแก้ไข Play Store ดาวน์โหลดแอปไม่ได้ ขึ้นรอดำเนินการ

วิธีแก้ไข Play Store ดาวน์โหลดแอปไม่ได้ ขึ้นรอดำเนินการ

Jacob Yeager

0

วิธีแก้ไข Play Store ดาวน์โหลดแอปไม่ได้ ขึ้นรอดำเนินการ

วิธีแก้ไขปัญหา Play Store ดาวน์โหลดแอปไม่ได้ ขึ้นว่ารอดำเนินการนานมากบน Android รวมทั้งกรณีอัปเดตแอปไม่ได้ ซึ่งไม่ต้องตกใจลองมาตรวจสอบระบบในโทรศัพท์และแก้ปัญหาไปพร้อมกัน

สำหรับมือถือสมาร์ทโฟนในระบบแอนดรอยด์จะมี Play Store เป็นศูนย์กลางของบริการแอปพลิเคชัน เกม ภาพยนตร์ รายการทีวี หรือเนื้อหาอื่นๆ ทั้งฟรีและมีค่าใช้จ่ายก่อนดาวน์โหลด แต่บางครั้งก็พบปัญหาไม่สามารถโหลดหรือติดตั้งลงในอุปกรณ์ได้ โดยทั้วไปเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุจนกลายเป็นเรื่องปกติที่ผู้ใช้มือถือสามารถแก้ไขได้ด้วยตัวเอง

ดาวน์โหลดแอปใน Play Store ขึ้นรอดำเนินการ คืออะไร

สถานะ รอดำเนินการ หรือ Download Pending เป็นข้อความที่จะแสดงขึ้นมาเพื่อรอดาวน์โหลดแอปพลิเคชันจาก Play Store ก่อนติดตั้งในโทรศัพท์ แต่บางครั้งก็กลายเป็นปัญหาที่สถานะดังกล่าวค้างอยู่เป็นเวลานานไม่ยอมดาวน์โหลดแอปสักทีจนเกิดข้อผิดพลาดต่างๆ นอกจากนี้สถานะรอดำเนินการยังปรากฏขึ้นเมื่อกดอัปเดตแอปพร้อมกันในคราวเดียว

ปัญหาที่พบบ่อย Play Store ดาวน์โหลดแอปไม่ได้

  • ติดตั้งแอปพลิเคชันไม่ได้หลังจากดาวน์โหลดเสร็จสิ้น
  • ระบบไม่ยอมดาวน์โหลดขึ้นสถานะ รอดำเนินการ เป็นเวลานาน
  • อัปเดตแอปพลิเคชันไม่ได้ ค้างอยู่ที่สถานะยืนยันโดย Play Protect

เช็คพื้นที่เก็บข้อมูลในโทรศัพท์

ไปที่การตั้งค่า (Settings) > การดูแลแบตเตอรี่และอุปกรณ์ ให้ดูในส่วนของ ที่เก็บ จะแสดงพื้นที่จัดเก็บข้อมูล เมื่อกดเข้าไปจะมีรายละเอียดหยิบย่อยเกี่ยวกับข้อมูลที่บันทึกไว้ทั้งหมดในอุปกรณ์

กรณีการดาวน์โหลดหรือติดตั้งแอปไม่ได้ไปจนถึงขึ้นสถานะ รอดำเนินการ (pending) เป็นเวลานานหลายชั่วโมง สาเหตุอาจเกิดจากพื้นที่เก็บข้อมูลในอุปกรณ์ไม่เพียงพอหรือใกล้เต็ม โดยปกติหากอุปกรณ์มีพื้นที่ว่างเหลือไม่ถึง 1 GB จะมีการการแจ้งเตือนให้เพิ่มพื้นที่ว่างด้วยการลบไฟล์ขยะหรือแอปฯ ที่ไม่ได้ใช้งาน

ล้างแคชแอป Play Store

จัดการลบข้อมูลหรือล้างไฟล์ขยะออกจากบริการโดยเข้าไปที่ การตั้งค่าในอุปกรณ์ > แอพ > เลือกบริการของ Google Play

Play Store โหลดไม่ได้

ไปที่เมนู ที่เก็บ (พื้นที่เก็บข้อมูล) แตะปุ่ม ลบแคชหรือล้างแคช ซึ่งการแสดงผลอินเตอร์เฟสของอุปกรณ์ Android จะแตกต่างกัน แต่รูปแบบการตั้งค่ายังคงเหมือนกัน

โทรศัพท์ตกรุ่น ระบบปฏิบัติการเก่าเกินไป

ลองตรวจสอบดูว่าโทรศัพท์มือถือที่ใช้งานอยู่นั้นเก่าเกินไปหรืออาจตกรุ่นจนนักพัฒนาเลิกสนับสนุนไปแล้วหรือไม่ โดยเฉพาะอุปกรณ์ที่ใช้ระบบปฏิบัติการ Android เวอร์ชั่น 2.2 หรือต่ำกว่า มักจะเกิดปัญหากับการดาวน์โหลดแอปจาก Google Play Store

  • เข้าไปที่แอป การตั้งค่า ของอุปกรณ์
  • แตะเมนู การอัปเดตระบบ ระบบจะแสดงรายละเอียดการอัพเดทล่าสุด

อย่างไรก็ตามมือถือรุ่นใหม่ๆก็อาจเกิดข้อผิดพลาดในการใช้งานได้เช่นกันหากไม่ได้อัปเดตระบบปฏิบัติการเป็นเวอร์ชั่นล่าสุดซึ่งมีขั้นตอนดำเนินการดังนี้

แนะนำ: เคล็ดลับตั้งค่ามือถือ Android ให้ปลอดภัย

ตรวจสอบการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต

การใช้บริการ Google Play Store อุปกรณ์จำเป็นต้องเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต Wi-Fi ดังนั้นสัญญาณเน็ตมีผลต่อการดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่นอย่างแน่นอน หากสัญญาณไมแรงพอก็อาจทำให้การดาวน์โหลดขัดข้องโดยทั่วไปมักเกิดขึ้นกับผู้ใช้เน็ตมือถือแบบจำกัดปริมาณหรือไวไฟหลุดระหว่างโหลดแอปฯก็เป็นปัญหาได้เช่นกัน

ตั้งค่าเครือข่ายในแอป Play Store

  • เปิดแอป Play Store แตะ รูปโปรไฟล์ ด้านบน
  • แตะ การตั้งค่า เลือก การตั้งค่าเครือข่าย
  • กำหนดค่าการดาวน์โหลดแอปหรือให้อัปเดตอัตโนมัติผ่าน Wi-Fi

ให้ลองตรวจสอบการตั้งค่าเครือข่ายในแอป Play Store บางครั้งอาจกำหนดค่าไม่ให้อัปเดตแอปอัตโนมัติหรือลองเปลี่ยนการตั้งค่าไปเป็นดาวน์โหลดผ่านทาง Wi-Fi เท่านั้น

รีสตาร์ทเครื่อง

ปัญหาที่แก้ไม่จบหรือแก้ไม่หายมักจะใช้ทางเลือกสุดท้ายด้วยการรีสตาร์ทเครื่อง เนื่องจากอาจมีแอปฯ บางอย่างที่ยังคงทำงานอยู่เบื้องหลังส่งผลให้การดาวน์โหลดผ่าน Play Store เกิดขัดข้อง โดยผู้ใช้สามารถกดปุ่มเปิด/ปิดด้านข้างบนมือถือค้างไว้จนกว่าจะปรากฏเมนู Restart (Reboot) สั่งการให้อุปกรณ์ทำการปิดแล้วเปิดเครื่องใหม่ทันทีเพื่อเริ่มระบบใหม่

ปัจจุบันข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้นจากการดาวน์โหลดแอปฯ บน Google Play Store ต้นเหตุของปัญหามาจากพฤติกรรมการใช้งานและมือถือสมาร์ทโฟนที่อาจตกรุ่นหรือไม่ได้อัปเดตระบบปฏิบัติการ Android เวอร์ชั่นล่าสุดที่มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อประสบการณ์การใช้แอปพลิเคชันและความปลอดภัย

พื้นที่แลกเปลี่ยนความคิดเห็น