หน้าแรก » ไอที » วิธีทำ Watchlist ติดตามหุ้นน่าลงทุนใน Google Sheets

วิธีทำ Watchlist ติดตามหุ้นน่าลงทุนใน Google Sheets

The Goodi3 Team

0

วิธีทำ Watchlist ติดตามหุ้นน่าลงทุนใน Google Sheets

วิธีทำ Watchlist ติดตามหุ้นน่าลงทุนใน Google Sheets จับตาดูดัชนีหุ้นที่น่าสนใจสำหรับการลงทุนของตัวเองอย่างเช่นการแสดงข้อมูลของราคาล่าสุดและแนวโน้มการเปลี่ยนแปลงในแต่ละวันแบบเรียลไทม์

สืบเนื่องจากเทรนด์การลงทุนหุ้นต่างประเทศกำลังเป็นที่นิยมในกลุ่มนักลงทุนชาวไทย ซึ่งหุ้นตัวไหนน่าสนใจก็มักจะบุ๊กมาร์กไว้ในแอปซื้อขายหุ้นเพื่อหาโอกาสเข้าลงทุนในช่วงเวลาที่เหมาะสม ผมจึงผุดไอเดียในการนำ Google Sheets มาประยุกต์ทำเป็น Watchlist สำหรับเกาะติดดัชนีหุ้นที่เราให้ความสนใจและน่าลงทุนที่สุด

Watchlist คืออะไร

Watchlist เป็นคุณสมบัติที่ช่วยในการติดตามสินทรัพย์ต่างๆ บนแพลตฟอร์มการลงทุน บางบริการอาจเรียกว่า favorite หรือ รายการโปรด ซึ่งผู้ใช้งานสามารถเพิ่มรายชื่อหุ้น, สกุลเงินที่ให้ความสนใจลงใน Watchlist เพื่อติดตามการเปลี่ยนแปลงและความเคลื่อนไหวล่าสุดได้ทุกที่ทุกเวลา

วิธีทำ Watchlist ใน Google Sheets แบบง่าย

ก่อนอื่นให้วางโครงสร้างในเอกสาร Google Sheets ว่าจะแสดงข้อมูลของหุ้นส่วนใดบ้าง โดยใช้ฟังก์ชั่น Google Finance เพื่อมองเห็นภาพรวมตลาดในแบบกำหนดเอง เนื่องจากจุดประสงค์ของเราแค่ต้องการติดตามหุ้นที่สนใจอีกทั้งวางแผนลงทุนไว้แล้ว

จากตัวอย่าง Watchlist เราได้แบ่งข้อมูลออกเป็น 10 คอลัมน์ (A – J) อาทิเช่น รายชื่อหุ้น, ราคาเปิด, ราคาซื้อขายล่าสุด, มูลค่าตลาด และ กราฟสถิติ ซึ่งสูตรที่ใช้ในการดึงข้อมูลมาแสดงในเอกสารมีดังต่อไปนี้

  • คอลัมน์ A รายชื่อหุ้น
  • คอลัมน์ B สูตรราคาเปิด =GOOGLEFINANCE(A2 ,”PRICEOPEN”)
  • คอลัมน์ C สูตรราคาสูงสุด =GOOGLEFINANCE(A2 ,”HIGH”)
  • คอลัมน์ D สูตรราคาต่ำสุด =GOOGLEFINANCE(A2 ,”LOW”)
  • คอลัมน์ E สูตรราคาปิดก่อนหน้า =GOOGLEFINANCE(A2 ,”CLOSEYEST”)
  • คอลัมน์ F สูตรราคาซื้อขายล่าสุด =GOOGLEFINANCE(A2 ,”PRICE”)
  • คอลัมน์ G สูตร Change =GOOGLEFINANCE(A2 ,”Change”)
  • คอลัมน์ H สูตร ChangePct =GOOGLEFINANCE(A2 ,”Changepct”) / 100
  • คอลัมน์ I สูตรปริมาณการซื้อขายเฉลี่ย =GOOGLEFINANCE(A2 ,”VOLUME”)
  • คอลัมน์ J สูตรมูลค่าตลาด =GOOGLEFINANCE(A2 ,”MARKETCAP”)

ถ้าสังเกตนับจากคอลัมน์ B – J ในสูตรทั้งหมดจะมีคำสั่ง A2 คือ การอ้างอิงตำแหน่งในคอลัมน์ A แถวที่ 2 สำหรับดึงข้อมูลตามรหัสชื่อย่อหลักทรัพย์อย่างเช่น AAPL (หุ้น Apple) โดยจะต้องระบุเป็นตัวเลขลำดับแถวที่ใช้งานนั้นเอง

แนะนำ: วิธีหาข้อมูลซ้ำกันใน Google Sheets

นอกจากนี้ยังสามารถใส่กราฟขนาดเล็กหรือแผนภูมิในช่องโดยใช้ฟังก์ชั่น Sparkline ระบุตำแหน่งอ้างอิงที่มีเครื่องหมาย $ นําหน้าตำแหน่งของแถวหรือคอลัมน์ ตัวอย่างเช่น เราจะแทรกกราฟในแถวของคอลัมน์ K เพื่อดูภาพรวมหุ้นในช่วง 180 วัน วิธีการตั้งค่าเบื้องต้น

  • คลิกคอลัมน์ K ไปที่ รูปแบบ บนเมนูบาร์
  • เลือก ตัวเลข > รูปแบบตัวเลขที่กำหนเอง
  • ป้อนคำสั่ง “กราฟ” # “วัน” กดปุ่ม ใช้

ถ้าลองดับเบิ้ลคลิกที่คอลัมน์ K จะสามารถเปลี่ยนค่าตัวเลขในคอลัมน์ เช่น เปลี่ยนตัวเลขจาก 180 เป็น 30 จะแสดงกราฟในช่วง 30 วัน โดยสูตรที่เราจะใช้จะมีรูปแบบคำสั่งดังนี้

  • สูตร =SPARKLINE(INDEX(GOOGLEFINANCE(A2,”price”,workday(today(),-$K$1),today()),,2),{“charttype”,”column”;”color”,”green”})

จากสูตรฟังก์ชั่น SPARKLINE จะทำการแปลงค่าตัวเลขที่อ้างอิงจากฟังก์ชั่น INDEX ให้เป็นกราฟคอลัมน์ขนาดเล็กในเซลล์เดี่ยวสามารถปรับแต่งด้วยสีเขียวเพื่อความสวยงามมองเห็นได้ชัดเจน

วิธีทำ Watchlist ใน Google Sheets

อันนี้เป็นตัวอย่าง Watchlist หุ้นสหรัฐอเมริกาที่ถูกขนานนามว่า Magnificent Seven Stocks หรือ 7 หุ้นนางฟ้า ได้แก่ Apple, Amazon, Google, Microsoft, Meta, Tesla และ Nvidia ที่มีบทบาทในการขับเคลื่อนเทคโนโลยีระดับแถวหน้าของโลก จนกลายเป็นหุ้นที่นักลงทุนต่างจับตามองและเข้ามาลงทุนอย่างต่อเนื่อง

การใช้ Google Sheets ทำ Watchlist นั้นไม่ใช่เรื่องใหม่แต่ที่ทำให้น่าสนใจมากขึ้นคือการใช้ประโยชน์จากฟังก์ชั่น GoogleFinance แสดงผลลัพธ์ของข้อมูลที่ถูกดึงมาใช้ได้แบบเรียลไทม์ อีกทั้งเราสามารถปรับแต่งและควบคุมเลือกดูเฉพาะข้อมูลที่สำคัญให้สอดคล้องกับความต้องการของตัวเองได้

พื้นที่แลกเปลี่ยนความคิดเห็น