ยืนยันตัวตน Outlook ด้วย Google Authenticator ทำยังไง

วิธีตั้งค่า ยืนยันตัวตน Outlook ด้วย Google Authenticator เปิดใช้รหัสผ่าน 2 ชั้น ก่อนลงชื่อเข้าใช้บัญชีทุกครั้งผ่านแอปพลิเคชันในโทรศัพท์และคอมพิวเตอร์ ช่วยรักษาบัญชีให้ปลอดภัยอยู่เสมอ

ป้องกันความเสี่ยงจากการถูกแฮกด้วยการยกระดับความปลอดภัยให้บัญชี Microsoft (Outlook, Office 365, OneDrive) โดยเปิดใช้ระบบยืนยันแบบ 2 ชั้น Two-step verification ด้วยแอปพลิคชั่น Google Authenticator ในโทรศัพท์มือถือ แต่ผู้ใช้บางคนอาจไม่รู้วิธีการตั้งค่าหรือต้องเปิดใช้ตรงไหน

ติดตั้งแอป Authenticator ในโทรศัพท์

Google Authenticator Setup

ก่อนอื่นให้ดาวน์โหลดแอป Google Authenticator จาก Play Store หรือ App Store ติดตั้งให้เรียบร้อย ส่วนคนที่มีใช้งานอยู่แล้วไปดูการตั้งค่าเปิดใช้รหัสยืนยันกันเลย

วิธีเปิดยืนยันตัวตน Outlook แบบ 2 ชั้น

ลงชื่อเข้าใช้บัญชี Microsoft จะเข้าผ่านบริการ Outlook หรือ Onedrive ได้เช่นกัน จากนั้นกดที่ รูปโปรไฟล์ มุมบนขวา เลือกเมนู บัญชี Microsoft ของฉัน

outlook profile settings

เลื่อนลงมาด้านล่างเลือกหัวข้อ ความปลอดภัย กดปุ่ม แดชบอร์ดความปลอดภัย ระบบจะให้ป้อนรหัสผ่านเข้าสู่ระบบบัญชีก่อนเพื่อความปลอดภัย

microsoft security dashboard

เมื่อเข้ามาที่หน้าความปลอดภัย กดที่ ตัวเลือกความปลอดภัยขั้นสูง ก่อนเข้าไปตั้งค่าระบบจะส่งรหัสยืนยันตัวตนไปที่ อีเมลสำรอง หรือ หมายเลขโทรศัพท์ที่ผูกไว้กับบัญชี

microsoft security dashboard menu

จากนั้นดูที่หัวข้อ วิธีที่จะพิสูจน์ว่าคุณคือใคร ให้กดปุ่ม [+] เพิ่มวิธีใหม่ในการลงชื่อเข้าใช้หรือยืนยัน เลือกหัวข้อ ใช้แอป

ยืนยันตัวตน Outlook

ซึ่งค่าเริ่มต้นของระบบจะแนะนำให้ใช้แอป Microsoft Authenticator แต่เราสามารถใช้ Google Authenticator แทนได้ โดยกดที่ ติดตั้งแอป Authenticator อื่น

Microsoft Authenticator

เปิดแอป Google Authenticator ในโทรศัพท์มือถือ กดไอคอน (+) มุมขวาล่างจอ เลือก สแกนคิวอาร์โค้ด ยกมือถือขึ้นมาถ่ายภาพ QR Code บนหน้าจอ

เปิดยืนยันตัวตน Outlook ด้วย Google Authenticator

บัญชี Microsoft Outlook จะถูกเพิ่มในรายการแอป Google Authenticator ให้นำรหัสยืนยันจากแอปมาป้อนในช่อง รหัสที่แอปสร้าง กดปุ่ม ถัดไป เท่านี้เป็นอันเสร็จเรียบร้อย

ทุกครั้งที่ล็อกอินบัญชี Microsoft หรือเข้าผ่านบริการ Outlook, OneDrive จะมีตัวเลือกใส่รหัสผ่านจากแอป Authenticator เพื่อตรวจสอบสิทธิ์การเข้าถึงบัญชีอย่างถูกต้อง ซึ่งวิธีข้างต้นสามารถประยุกต์ใช้กับแอปพลิเคชั่นยืนยันตัวตนอื่นๆ ได้เช่นกัน แต่ส่วนใหญ่ผู้ใช้จะนิยม Google Authenticator เพราะมีฟีเจอร์ Backup & Restore สามารถย้ายข้อมูลไปยังโทรศัพท์เครื่องใหม่ได้